Search

ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นับได้ว่าเป็นผ...

  • Share this:

ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นับได้ว่าเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกที่ภาคธุรกิจเอกชนเองก็ได้รับการยอมรับว่ามีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพ จนมีหลายธุรกิจที่สามารถเติบโตมาได้หลายชั่วอายุคน อีกทั้งจากผลสำรวจยังพบว่าญี่ปุ่นมีองค์กรธุรกิจที่ก่อตั้งมายืนยาวมากกว่า 100 ปีมากที่สุด ซึ่งสิ่งหนึ่งที่พาธุรกิจของญี่ปุ่นก้าวข้ามอุปสรรคและประสบความสำเร็จได้ก็คือ แนวคิดทางธุรกิจที่เรียกว่า ริเน็น (Rinen) ซึ่งเป็นแนวคิดที่องค์กรธุรกิจญี่ปุ่นยึดถือในการดำเนินงาน สร้างจุดแข็งและช่วยให้ธุรกิจฝ่าฟันวิกฤต โดยริเน็นเป็นเหมือนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และคุณค่าที่องค์กรเชื่อถืออยู่ ซึ่งตอบคำถามที่ว่า “ธุรกิจของเราดำรงอยู่เพื่ออะไร” และยึดมั่นจุดยืนนั้นในทุกการตัดสินไม่ว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปทางไหน โดยที่ผู้บริหารและพนักงานต่างก็ยึดมั่นสิ่งนี้อยู่ในใจและสะท้อนคุณค่าของสิ่งนี้ออกมาผ่านทางความคิด คำพูด และการกระทำ
.
พลังของ “ริเน็น”
ยกตัวอย่างบริษัทรับทำการ์ดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่ประสบปัญหาธุรกิจซบเซา เนื่องจากสถานการณ์ที่ความนิยมในการเขียนการ์ดส่งหากันน้อยลง ดังนั้น ประธานบริษัทจึงต้องทบทวนคุณค่าขององค์กรว่าทำไมต้องทำการ์ด จากนั้นจึงได้ประกาศริเน็นของบริษัทว่าต้องการรักษาวัฒนธรรมการขอบคุณในแบบของญี่ปุ่น (Arigato Culture) ให้คงอยู่ต่อไป จึงทำให้พนักงานรู้สึกมีความภาคภูมิใจกับงานที่ทำว่ามีคุณค่าและมีความหมายมากกว่าแค่การขายกระดาษที่ให้ผู้คนเขียนข้อความแล้วส่งต่อเท่านั้น อีกตัวอย่างหนึ่ง Teamlab กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลและเทคโนโลยี ที่มีริเน็นคือความตั้งใจจะสำรวจความสัมพันธ์รูปใหม่ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและระหว่างตัวเองและโลกผ่านการใช้ศิลปะ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงให้มนุษย์ผูกพันเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้น โดยริเน็นของ Teamlab มาจากความเชื่อของประธานบริษัทที่มีความผูกพันกับธรรมชาติในวัยเด็กและต้องการให้เด็กในเมืองได้สัมผัสกับธรรมชาติผ่านการใช้เทคโนโลยี นำเสนอความเป็น Borderless ที่โลกเชื่อมหากันและสามารถเดินไปสำรวจแต่ละดินแดนได้ ซึ่งปรัชญาที่ดีขององค์กรนี้เองส่งผล Teamlab เป็นที่นิยมและมีผู้คนมากมายอยากเข้ามามีส่วนร่วมในประสบการณ์นี้
.
“ริเน็น” จุดยืนที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องมี
การมีริเน็นยังช่วยให้องค์กรหันกลับมาสำรวจจุดยืนของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งทำให้องค์กรเดินหน้าตัดสินใจไปในทางที่สอดคล้องกับริเน็นของตนเองโดยไม่หลุดความเป็นตัวตน ยกตัวอย่างกรณี Oisix ธุรกิจขายอาหารสดออนไลน์ที่มีริเน็น คือการอยากสร้างอนาคตที่ดีผ่านอาหาร จึงทำให้ Oisix ขายอาหารสดที่เป็นผักออร์แกนิคและเนื้อสัตว์คุณภาพดีเท่านั้น เมื่อบริษัทประสบภาวะวิกฤตที่ต้องพยุงให้ธุรกิจอยู่รอด ดังนั้นทางเลือกของ Oisix จึงไม่ใช่การลดคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างยอดขายซึ่งขัดกับริเน็นของบริษัทอย่างแน่นอน อีกกรณีของ Kamakura บริษัทลงทุนที่มีริเน็นคือการสนับสนุนบริษัทที่ดีเพื่อสร้างสังคมที่ดี จึงทำให้บริษัทมีทิศทางการดำเนินธุรกิจชัดเจนในการเลือกลงทุนในบริษัทที่ผลิตสินค้าดีมีคุณภาพเท่านั้น ด้วยเป้าหมายที่ต้องการสร้างความยั่งยืนให้สังคมและด้วยริเน็นที่ชัดเจน บริษัทจึงเลือกสนับสนุนเงินเพื่อช่วยธุรกิจดีๆ ที่กำลังลำบากมากกว่าลงทุนในหุ้นบริษัทที่กำลังเติบโตเพื่อหวังผลกำไรอย่างเดียว
.
ในบางครั้งการหลุดความเป็นตัวตนอาจเกิดขึ้นได้ในบริษัทที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในระยะหนึ่งจนมีกำลังมากพอที่ขยายธุรกิจไปทำสินค้าอื่น ยกตัวอย่างกรณีของ Muji ที่มีริเน็นคือการทำสินค้าคุณภาพดี ราคาไม่แพง เพื่อสร้างชีวิตที่ดี ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บริษัทหันไปจับธุรกิจทำรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เสื้อแบบที่นิยมในตลาด แต่ปรากฎว่ายอดขายกลับตกลง จึงทำให้ Muji ต้องย้อนกลับมาพิจารณาริเน็นของตัวเองและดึงจิตวิญญาณของความเป็น Muji กลับมา สำหรับการขยายธุรกิจในความเป็นจริงแล้วก็ยังคงทำได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหลุดจากตัวตนหากบริษัทมีริเน็นที่ชัดเจน เห็นได้จากทุกวันนี้ Muji มีสินค้าหลากหลายภายใต้ริเน็นของการสร้างชีวิตที่ดี จึงอาจกล่าวได้ว่าริเน็นเป็นเหมือนแก่นที่ยึดถือในการเติบโตและพัฒนา ไม่ใช่กรอบสร้างข้อจำกัด ดังนั้น องค์กรมีที่ริเน็นที่ดีจะไม่ถูกจำกัดความคิดในเรื่องของสินค้าและวิธีการ แต่สามารถสร้างสรรค์สินค้าต่อยอดบริการได้อีกมากมาย
.
บริหารองค์กรด้วย “ริเน็น” เพื่อกู้วิกฤต
สำหรับกรณีวิกฤตไวรัสโควิด-19 ในญี่ปุ่นที่ส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วน ภาคธุรกิจต่างก็ปรับตัวโดยมีริเน็นขององค์กรเป็นแก่นให้ยึดถือ เช่นกรณี Hoshinoya เครือโรงแรมลักชัวรี่ของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบหนัก แต่ด้วยริเน็นของบริษัทที่ต้องการส่งบริการแบบญี่ปุ่นที่มอบความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าโดยการใส่ใจรายละเอียด ผู้บริหารและพนักงานจึงกลับมาทบทวนริเน็นของบริษัทว่าจะส่งมอบบริการที่ดีให้ลูกค้าได้อย่างไรแม้จะอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ เช่น จะส่งอาหารให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและปลอดภัยได้อย่างไร เป็นต้น ซึ่งการมีริเน็นชัดทำให้องค์กรมีอดีตความเป็นมาที่ดีและช่วยให้ลูกค้าเชื่อมั่นในองค์กร นับเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันเราได้เมื่อเกิดภาวะวิกฤต
.
นอกจากนี้ ริเน็นก็มีส่วยช่วยบริหารองค์กรในช่วงวิกฤตด้วยการให้ความสำคัญกับพนักงาน จากตัวอย่างของบริษัท Enough Food ที่ประสบปัญหาถึงขั้นล้มละลาย ประธานบริษัทจึงต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใช้งบก้อนสุดท้าย 2 ล้านเยนทำอะไร โดยเลือกระหว่างโปรโมทสินค้า ดูแลพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน และเมื่อได้ย้อนกลับไปดูริเน็นของบริษัทคือ “เราจะสร้างบริษัทที่ดี” จึงทำให้ผู้บริหารตัดสินใจใช้งบดูแลพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บและเปลี่ยนเครื่องจักรเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งการตัดสินใจได้สร้างผลตอบรับที่ดีเพราะได้ใจพนักงานไปอย่างล้นหลาม และส่งผลให้พนักงานทำงานอย่างทุ่มเทจนสามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ของบริษัทกลับมาได้ในที่สุด หรือในกรณีของธุรกิจซีอิ๊ว Yagisawa Shoten ที่มีอายุกว่า 180 ปีที่โดนสึนามิถล่มโรงงาน จึงทำให้วัตถุดิบและหัวเชื้อที่ใช้ในการหมักซีอิ๊วเสียหายหมด ซึ่งในตอนแรกประธานบริษัทถึงกับจะเลิกกิจการแต่กลับฉุกคิดขึ้นได้ว่ายังมีสิ่งสำคัญที่เหลืออยู่นั่นก็คือพนักงาน ดังนั้น ท่านประธานจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อไปและมอบเงินเดือนเดือนล่าสุดให้พนักงาน เมื่อบริษัทวิจัยแห่งหนึ่งได้เห็นข่าวนี้แพร่ออกไปและนึกขึ้นได้ว่า Yagisawa Shoten เคยส่งหัวเชื้อให้ห้องแล็บเพื่อใช้ในการทดลอง จึงตัดสินใจส่งหัวเชื้อที่เหลือกลับคืนให้บริษัทใช้ผลิตสินค้าและกลับมาดำเนินกิจการใหม่อีกครั้ง จากกรณีศึกษานี้ทำให้เห็นว่าองค์กรที่ทำความดีจะได้รับผลความดีตอบแทน เพราะคนญี่ปุ่นมีคติแนวคิดว่า คนเราไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ การที่อยู่ได้ไม่ใช่เพราะว่าเราเก่ง แต่เป็นเพราะมีคนบางคนช่วยเหลือเราอยู่ จงอย่าลืมคนคนนั้น ดังนั้นบริษัทญี่ปุ่นที่ดีจึงให้ความสำคัญมากกับการรักษาความสัมพันธ์กับคนในชุมชน รวมไปถึงการดูแลพนักงาน เพราะหากพนักงานไม่มีความสุขก็จะไม่สามารถส่งมอบบริการที่ดีให้ลูกค้าได้
.
ถ่ายทอด “ริเน็น” สู่พนักงาน
เมื่อองค์กรญี่ปุ่นให้ความใส่ใจในเรื่องการดูแลพนักงานแล้ว จึงส่งผลให้อัตราการลาออกขององค์กรอยู่ในระดับที่ต่ำ ยกตัวอย่างการใช้ริเน็นดูแลพนักงานของบริษัท Plan Do See ธุรกิจรับจัดงานแต่งงานที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าทุกวันที่ทำงานที่นี่คือการได้เติบโต โดยบริษัทมีการสับเปลี่ยนหน้าที่ให้พนักงานได้ทำหน้าที่แทนกัน เช่น ให้เชฟลองมาเสิร์ฟอาหาร พนักงานเสิร์ฟได้เข้าไปทำงานในครัว ทำให้พนักงานได้เรียนรู้ว่าทุกคนสามารถสร้างความสุขให้ลูกค้าได้เหมือนกัน การเรียนรู้การทำงานของแต่ละคนก็ช่วยสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันและช่วยลดความขัดแย้งในองค์กร
.
นอกจากนี้เทคนิค Storytelling การถ่ายทอดด้วยเรื่องราวก็ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ริเน็นเข้าไปในจิตใจพนักงาน เช่นเดียวกับสายการบิน Japan Airline ที่ให้พนักงานใหม่ทุกคนเข้าชมการจัดแสดงซากเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุ และมีสิ่งของจริงของผู้โดยสาร เช่น จดหมายข้อความสุดท้ายที่พ่อเขียนถึงลูก ฯลฯ ซึ่งเป็นการสื่อสารที่มีพลังอย่างมากเมื่อเทียบการบอกด้วยคำพูดอย่างเดียว
.
ริเน็น VS องค์กรธุรกิจไทย
ผู้ประกอบการไทยก็สามารถสร้างริเน็นให้ธุรกิจได้เช่นกัน อย่างกรณีธุรกิจครอบครัว ทายาทธุรกิจรุ่นสองรุ่นสามก็สามารถสร้างริเน็นได้ โดยอธิบายให้พ่อแม่ให้เห็นถึงสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปหากธุรกิจไม่มีแก่นไว้ยึดมั่น เช่น Bar B Q Plaza เปลี่ยนจากการขายหมูกระทะธรรมดาด้วยริเน็น เราจะทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด เป็นการสร้างความสุขด้วยหมูกระทะ หรือหากเป็นผู้บริหารใหม่ในองค์กรใหญ่ ความท้าทายของการสร้างริเน็น คือ การทำให้ริเน็นของตัวเองชัดเจนจึงจะสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ เช่นกรณีของ คาซูโอะ อินาโมริ ที่เข้ามากู้วิกฤต Japan Airlines โดยอินาโมริเองมีริเน็นชัดเจนว่าเราทำเพื่อสายการบิน ทำเพื่อประเทศ จากนั้นจึงสื่อสารกับพนักงานทุกคนตั้งแต่ฝ่ายช่าง แอร์โฮสเตส จนถึงผู้บริหาร และพยายามหาว่าจิตวิญญาณของ Japan Airlines ที่แท้จริงคืออะไร และกระตุ้นให้พนักงานทุกคนเห็น อีกทั้งอินาโมริก็ทุ่มเททำงานเพื่อกู้วิกฤตอย่างจริงจัง จึงทำให้พนักงานทุกคนร่วมแรงร่วมใจพลิกฟื้น Japan Airlines กลับมาได้
.
แนวคิดแบบริเน็นจะทำให้ผู้ประกอบการไม่ตัดสินใจโดยมองแค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่จะช่วยให้มองระยะยาวถึงพนักงานและลูกค้าโดยไม่ตัดสินใจผิดพลาดทำลายแบรนด์ตัวเอง ซึ่งช่วยให้องค์กรมี Brand Identity ที่ชัดเจนเพราะมีแก่นในการดำเนินงานและตัดสินใจ อีกทั้งลูกค้าจะรักในสินค้าและบริการของบริษัทด้วยใจจริง เพราะริเน็นที่ชัดเจนจะดึงดูดให้ลูกค้าอินกับธุรกิจเรา ที่สำคัญหากธุรกิจไทยมีริเน็น ผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็คือสังคมไทยที่จะมีองค์กรธุรกิจสร้างสินค้าบริการดีๆ เปี่ยมด้วยคุณค่าให้สังคมอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/business-maker/rinen.html


Tags:

About author
not provided
รายการสร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายไฟฝันที่อยู่ในตัวคุณ ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้
View all posts